ทำเนียบแชมป์ พรีเมียร์ลีก

ทีมแชมป์พรีเมียร์ลีก ตั้งแต่ฤดูกาล 1992-93 จนถึงปัจจุบัน


1. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 13 สมัย ( 20 )
2. แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 7 สมัย ( 9 )
3. เชลซี 5 สมัย ( 6 )
4. อาร์เซน่อล 3 สมัย ( 13 )
5. แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 1 สมัย ( 3 )
6. เลสเตอร์ ซิตี้ 1 สมัย ( 1 )
7. ลิเวอร์พูล 1 สมัย ( 19 )
* ตัวเลขในวงเล็บ จำนวนแชมป์ลีกสูงสุด

ฤดูกาล 1992-93 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ผู้จัดการทีม : อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
เป็นการย้ายมาร่วมทีม แมน.ยูไนเต็ด ฤดูกาลแรกของ
เอริค คันโตน่า ผู้ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในตำนานนักเตะ
ของ "ปีศาจแดง" ในเวลาต่อมา


ฤดูกาล 1993-94 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ผู้จัดการทีม : อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
เอริค คันโตน่า ยังคงเป็นแกนหลักพา ยูไนเต็ด
คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก เป็นปีที่สองติดต่อกัน


ฤดูกาล 1994-95 : แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส

ผู้จัดการทีม : เคนนี่ ดัลกลิช
อลัน เชียเรอร์ และ คริส ซัตตัน จับคู่ยิงรวมกัน 49 ประตู
ช่วยให้ทัพ "กุหลาบไฟ" คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ได้สำเร็จ


ฤดูกาล 1995-96 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ผู้จัดการทีม : อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
"เฟอร์กี้" ลบคำสบประมาท เมื่อพาทีม "ปีศาจแดง"
คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ภายใต้สโลแกน "เฟอร์กี้ เบ็บส์"
เพราะแกนหลักในทีมใช้เด็กสร้างมากมาย เช่น
แกรี่/ฟิล เนวิลล์, เบ็คแฮม, สโคลส์, บัตต์, กิ๊กส์
ขณะที่ เอริค คันโตน่า ก็ยังคงเป็นแกนหลักเช่นเดิม


ฤดูกาล 1996-97 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ผู้จัดการทีม : อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
เป็นปีแจ้งเกิดของ เดวิด เบ็คแฮม
จากการยิงประตูครึ่งสนามในเกมเปิดฤดูกาล
จากนั้นมา "หนุ่มเบ็คส์" ก็กลายเป็นนักเตะ
ที่มีชื่อเสียงโด่งดังจนถึงทุกวันนี้


ฤดูกาล 1997-98 : อาร์เซน่อล
อาร์เซน่อล

ผู้จัดการทีม : อาร์แซน เวนเกอร์
คว้าแชมป์โดยมีคะแนนเหนืออันดับสอง แมน.ยูไนเต็ด 1 คะแนน


ฤดูกาล 1998-99 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ผู้จัดการทีม : อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
แมน.ยูไนเต็ด ทวงแชมป์คืนจาก อาร์เซน่อล
ด้วยคะแนนห่างเพียง 1 คะแนนเช่นกัน
สร้างประวัติศาสตร์คว้า ทริปเปิ้ลแชมป์
( แชมเปี้ยนส์ลีก / พรีเมียร์ลีก / เอฟเอคัพ )
"เฟอร์กี้" จึงได้รับการประดับยศให้เป็น
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ในเวลาต่อมา


ฤดูกาล 1999-00 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ผู้จัดการทีม : เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
คว้าแชมป์โดยทิ้งห่างอันดับสองอย่างอาร์เซน่อล 18 คะแนน


ฤดูกาล 2000-01 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ผู้จัดการทีม : เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
เท็ดดี้ เชอร์ริงแฮม ในวัย 35 ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม
คว้านักเตะยอดเยี่ยมของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพ (PFA)


ฤดูกาล 2001-02 : อาร์เซน่อล
อาร์เซน่อล

ผู้จัดการทีม : อาร์แซน เวนเกอร์
เธียร์รี่ อองรี มีส่วนสำคัญช่วยให้ทีมคว้าแชมป์
และยังเป็นดาวซัลโวสูงสุดในลีก ด้วยผลงาน 24 ประตู


ฤดูกาล 2002-03 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ผู้จัดการทีม : เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
"เฟอร์กี้" ประกาศจะเลิกคุมทีมหลังจบฤดูกาล 2001-02
แต่ตัดสินใจคุมทีมต่อ และทวงแชมป์คืนจากอาร์เซน่อล
ด้วยกำลังสำคัญอย่าง รุด ฟาน นิสเตลรอย
ที่คว้าตำแหน่งดาวซัลโว โดยยิงไป 25 ประตู


ฤดูกาล 2003-04 : อาร์เซน่อล
อาร์เซน่อล

ผู้จัดการทีม : อาร์แซน เวนเกอร์
อาร์เซน่อล คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกโดยไม่แพ้ทีมใดเลย
จนได้รับฉายาว่า "อาร์เซน่อล ผู้ไร้เทียมทาน"
( The Invincibles )


ฤดูกาล 2004-05 : เชลซี
เชลซี

ผู้จัดการทีม : โชเซ่ มูรินโญ่
โชเซ่ มูรินโญ่ โชว์ผลงานพาทีมเชลซี
คว้าแชมป์ได้ตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่เข้ามาคุมทีม


ฤดูกาล 2005-06 : เชลซี
เชลซี

ผู้จัดการทีม : โชเซ่ มูรินโญ่
โชเซ่ มูรินโญ่ ยังคงโชว์ความสุดยอด ด้วยการพาเชลซี
คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้เป็นฤดูกาลที่สองติดต่อกัน


ฤดูกาล 2006-07 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ผู้จัดการทีม : เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
เป็นปีที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ โชว์ฟอร์มสุดยอด
คว้านักฟุตบอลยอดเยี่ยมและนักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยม
จากสมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษ (PFA)


ฤดูกาล 2007-08 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ผู้จัดการทีม : เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
แมน.ยูไนเต็ด ได้ทั้งแชมป์พรีเมียร์ลีก และยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จึงก้าวสู่การเป็นนักเตะระดับโลก
คว้าดาวซัลโวลีก 31 ประตู และคว้านักเตะยอดเยี่ยม
จากสมาคมนักฟุตบอลอาชีพ(PFA) เป็นปีที่สองติดต่อกัน
ส่งผลให้คว้านักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของยุโรปไปครอง


ฤดูกาล 2008-09 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ผู้จัดการทีม : เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
ปีสุดท้ายของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก่อนย้ายไป เรอัลฯ
โดยเจ้าตัวเป็นรองดาวซัลโว ด้วยจำนวน 18 ประตู
ช่วยให้ "ปีศาจแดง" ผงาดคว้าแชมป์เป็นปีที่สามติดต่อกัน


ฤดูกาล 2009-10 : เชลซี
เชลซี

ผู้จัดการทีม : คาร์โล อันเชล็อตติ
คาร์โล อันเชล็อตติ โชว์ผลงานพาทีมเชลซี
คว้าแชมป์ได้ตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่เข้ามาคุมทีม


ฤดูกาล 2010-11 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ผู้จัดการทีม : เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
"ปีศาจแดง" กลายเป็นทีมที่คว้าแชมป์ลีกสูงสุด
ของประเทศอังกฤษ มากที่สุดถึง 19 สมัย
( ดิวิชั่น 1 เดิม = 7 สมัย, พรีเมียร์ลีก = 12 สมัย )
ทำลายสถิติแชมป์ลีกสูงสุด 18 สมัย
ของ ลิเวอร์พูล ได้สำเร็จ


ฤดูกาล 2011-12 : แมนเชสเตอร์ ซิตี้
แมนเชสเตอร์ ซิตี้

ผู้จัดการทีม : โรแบร์โต้ มันชินี่
ซิตี้ จบฤดูกาลด้วยการมี 89 คะแนน เท่ากับ ยูไนเต็ด
จึงเป็นครั้งแรกที่ต้องวัดแชมป์ด้วยผลต่างประตู ได้-เสีย
ซึ่งทีม "เรือใบสีฟ้า" มีผลต่างดีกว่า "ปีศาจแดง" 8 ประตู


ฤดูกาล 2012-13 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ผู้จัดการทีม : เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
แมน.ยูไนเต็ด ทวงแชมป์คืนจาก แมน.ซิตี้ ได้ทันที
และคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษได้เป็นสมัยที่ 20
พร้อมทั้งปิดฉากการคุมทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
หลังอยู่คุมทีมนานเกือบ 27 ปี ( พ.ย.1986 - พ.ค.2013 )


ฤดูกาล 2013-14 : แมนเชสเตอร์ ซิตี้
แมนเชสเตอร์ ซิตี้

ผู้จัดการทีม : มานูเอล เปเยกรินี่
มานูเอล เปเยกรินี่ คว้าแชมป์ได้ตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่คุมทีม
ส่งผลให้ แมน.ซิตี้ คว้าแชมป์ลีกเป็นสมัยที่ 2 ในรอบ 3 ปี


ฤดูกาล 2014-15 : เชลซี
เชลซี

ผู้จัดการทีม : โชเซ่ มูรินโญ่
เชลซี คว้าแชมป์มาครองได้ก่อนจบฤดูกาล
ในขณะที่ยังเหลือการแข่งขันอีกถึง 3 นัด


ฤดูกาล 2015-16 : เลสเตอร์ ซิตี้
เลสเตอร์

ผู้จัดการทีม : เคลาดิโอ รานิเอรี
เป็นแชมป์ลีกสูงสุดครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร
( ก่อตั้งเมื่อปี 1884 ) ขณะที่ เคลาดิโอ รานิเอรี่
ก็ได้แชมป์ลีกสูงสุดครั้งแรกในชีวิตการคุมทีมเช่นกัน


ฤดูกาล 2016-17 : เชลซี
เชลซี

ผู้จัดการทีม : อันโตนิโอ คอนเต้
เชลซี ชนะต่อ 1 ฤดูกาลได้มากที่สุด (30 เกม)
ทำให้ อันโตนิโอ คอนเต้ กลายเป็นอีกหนึ่งคนที่สามารถ
พาทีมคว้าแชมป์ได้ตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่เข้ามาคุมทีม


ฤดูกาล 2017-18 : แมนเชสเตอร์ ซิตี้
แมนเชสเตอร์ ซิตี้

ผู้จัดการทีม : เป๊ป กวาร์ดิโอล่า
แมน.ซิตี้ คว้าแชมป์พร้อมทำลายสถิติมากมาย
- เป็นทีมแรกที่เก็บได้ถึง 100 แต้ม -
- ทิ้งห่างอันดับ 2 มากที่สุด ( 19 แต้ม ) -
- เก็บชัยชนะในลีก มากที่สุด ( 32 นัด ) -
- ยิงประตูได้ มากที่สุด ( 106 ประตู ) -
- ชนะติดต่อกันในลีก มากที่สุด ( 18 นัด ) -


ฤดูกาล 2018-19 : แมนเชสเตอร์ ซิตี้
แมนเชสเตอร์ ซิตี้

ผู้จัดการทีม : เป๊ป กวาร์ดิโอล่า
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ
โดยเก็บชัยในลีกได้มากสุด ( 32 นัด ) เท่าซีซั่นก่อน
และเป็นอีกครั้งที่ทีมแชมป์พรีเมียร์ลีกอังกฤษ
มีแต้มมากกว่าทีมอันดับสองแค่ 1 แต้ม
พร้อมทั้งสร้างประวัติศาสตร์เป็นทีมแรกในอังกฤษ
ที่คว้า 3 แชมป์ในประเทศได้ในฤดูกาลเดียว
( พรีเมียร์ลีก / เอฟเอคัพ / ลีกคัพ )


ฤดูกาล 2019-20 : ลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูล

ผู้จัดการทีม : เจอร์เก้น คล็อปป์
ลิเวอร์พูล ได้แชมป์ขณะที่เหลือการแข่งขันอีกถึง 7 นัด
โดยมี 99 แต้ม ซึ่งเป็นแต้มมากที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร
ส่งผลให้คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกอังกฤษ เป็นครั้งแรก
และนับเป็นแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษ สมัยที่ 19
( ดิวิชั่น 1 เดิม = 18 สมัย, พรีเมียร์ลีก = 1 สมัย )


ฤดูกาล 2020-21 : แมนเชสเตอร์ ซิตี้
แมนเชสเตอร์ ซิตี้

ผู้จัดการทีม : เป๊ป กวาร์ดิโอล่า
แมน.ซิตี้ ได้แชมป์ขณะที่เหลือการแข่งขันอีก 3 นัด
และเป็นการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก สมัยที่ 3 ในรอบ 4 ปี
--- รางวัลต่างๆ ---
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีก
รูเบน ดิอาส นักเตะยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีก
เควิน เดอ บรอยน์ นักเตะยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ
ฟิล โฟเด้น ดาวรุ่งยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีกและพีเอฟเอ


ฤดูกาล 2021-22 : แมนเชสเตอร์ ซิตี้
แมนเชสเตอร์ ซิตี้

ผู้จัดการทีม : เป๊ป กวาร์ดิโอล่า
แมน.ซิตี้ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก สมัยที่ 4 ในรอบ 5 ปี
--- รางวัลต่างๆ ---
เควิน เดอ บรอยน์ นักเตะยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีก
ฟิล โฟเด้น ดาวรุ่งยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีกและพีเอฟเอ


ฤดูกาล 2022-23 : แมนเชสเตอร์ ซิตี้
แมนเชสเตอร์ ซิตี้

ผู้จัดการทีม : เป๊ป กวาร์ดิโอล่า
แมน.ซิตี้ คว้าแชมป์ลีก 3 ปีติดต่อกัน ( สมัยที่ 5 ในรอบ 6 ปี )
นอกจากนี้ ยังคว้าทั้งแชมป์เอฟเอคัพ และ ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก
จึงเป็นทีมที่สองของอังกฤษที่สามารถคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ได้
ต่อจาก แมน.ยูไนเต็ด ที่เคยทำไว้เป็นทีมแรกเมื่อปี 1999
--- รางวัลต่างๆ ---
เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ กลายเป็นนักเตะคนแรกที่คว้าทั้งรางวัล
นักเตะยอดเยี่ยมและดาวรุ่งยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีก
ได้ในฤดูกาลเดียวกัน



กลับด้านบน

พรีเมียร์ดรีม | PremierDream
เว็บฟุตบอลพรีเมียร์ลีก | ปีที่ 22
โปรแกรมฟุตบอล ตารางคะแนน ดาวซัลโว


ABV 5+ %

dd rose